ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

ชาเจสัน วินเทอร์ ชาสมุนไพรสามทวีป


ชาเจสัน วินเทอร์ ชาชงสมุนไพรจากสามทวีป

ชาเจสัน วินเทอร์ 
 
ส่วนประกอบสำคัญ
- เฮอร์บาลีน(Herbalene) สมุนไพรจากทวีปเอเชีย

- เซจส์(Sage) สมุนไพรจากทวีปอเมริกา

- เรด โคลเวอร์(Red Clover) สมุนไพรจากทวีปยุโรป

(ควรรับประทานขณะท้องว่าง ก่อนอาหารประมาณ ครึ่งชั่วโมง)

สรรพคุณล้างสารพิษในระบบเลือด, ควบคุมระดับความดันโลหิต, เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน, ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด, ลดไขมันส่วนเกิน ลดหน้าท้อง กระชับสัดส่วน, แก้ปวดเมื่อย, ยับยั้งการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์มะเร็ง, ปรับสมดุลในร่างกาย, เสริมสมรรถภาพทางเพศ,ช่วยรักษาสายตา, ผิวพรรณผ่องใส ชะลอความแก่ ฯแก้ปัญหาเกี่ยวกับโรคเลือด, เบาหวาน, ความดันฯ, มะเร็ง, เก๊าส์, เนื้องอก, ซี๊ด ,SLE ฯ
โปรดทราบ - ชาเจสัน วินเตอร์ ไม่ใช่ยา และไม่ได้ใช้เพื่อการรักษา หรือป้องกัน แต่ใช้เพื่อเสริมอาหาร- ผู้ที่รับประทานยาประจำที่แพทย์สั่ง ให้รับประทานต่อไปไม่ต้องหยุด- แนะนำให้ผู้ป่วยทดลองรับประทาน ชาสมุนไพรเจสัน วินเตอร์ เพื่อเสริมอาหาร - ควบคู่กับการรักษาตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ คุณอาจพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้- ทางเราไม่โฆษณาชวนเชื่อ เกินความเป็นจริง ผลลัพธ์ที่ได้จะดีมากน้อยเพียงใด ขึ้นกับการดูแลร่างกายของแต่ละบุคคล ตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำด้วยเป็นส่วนสำคัญ

วิธีต้ม ใช้ใบชาขนาด 2-3 ช้อนโต๊ะ/น้ำ 1 ลิตร ห่อใบชาในผ้าขาวขนาดประมาณผ้าเช็ดหน้า(ห่อผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้ใบชา ติดหม้อต้ม) มัดเชือกที่ทำจากผ้าหรือด้าย ต้มใบชาที่ห่อผ้าแล้ว ในน้ำเดือด 15 นาที เพื่อให้ชาละลายได้คุณภาพ จากนั้นปิดไฟ และรอให้ชาอุ่นๆ แกะใบชาออกจากผ้า ละลายไปในน้ำชา ที่ต้มแล้ว เพราะใบชาที่ต้มแล้วสามารถดื่มไปพร้อมกับน้ำชาได้เลยการต้มแต่ละครั้ง หากทานดื่มไม่หมด สามารถเก็บใส่ตู้เย็น เมื่อจะดื่มครั้งต่อไป อุ่นประมาณ 5 นาทีให้พอร้อนก็ดื่มได้เลย 

ปริมาณในการดื่มดื่มก่อนอาหารครั้งละ 1-2 แก้วชา วันละ 2 เวลา เช้า และ ก่อนนอนควรรับประทานขณะท้องว่าง จะได้ผลดีมาก

การเก็บรักษาควรเก็บชาเจสัน วินเตอร์ ที่ต้มแล้วแต่ดื่มไม่หมดในครั้งเดียว และที่ยังไม่ต้ม ไว้ในตู้เย็น

คำแนะนำ การรับประทานในช่วง 3-5 วันแรก ร่างกายอาจจะมีปฏิกิริยาเล็กน้อย เช่น คันตามมือ ตามเท้า มึนหัว ถ่ายสีดำ, รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย ฯ อย่าเพิ่งหยุดทานชา เพราะร่างกายกำลังปรับสมดุล หลังจากนั้นจะสุขภาพดีขึ้นตามลำดับ

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และ สตรีมีครรภ์ ควรรับประทานภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หรือเภสัชกร

แบบเม็ด 1ขวดมี100เม็ด ทานก่อนอาหารเช้า เที่ยง เย็น
แบบชงดื่ม ราคา 1790 บาท บรรจุ 142 กรัม 5 ออนซ์ ทานได้1เดือน

ผู้ใช้จริงๆ บอกเล่าความประทับใจ 
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=evJRjYKnoX8

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

บำรุงสมองด้วยเลซิติน



สารเลซิติน

ในปัจจุบัน ผู้บริโภคนิยมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากธรรมชาติเพื่อรักษาสุขภาพ ทำให้ เลซิตินเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนที่เอาใจใส่ดูแลสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากมีความเชื่อว่าเลซิติน จะช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคความจำเสื่อม รวมทั้งช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่าเลซิตินคืออะไร มีความสำคัญ และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร


สารเลซิติน คืออะไร
เลซิติน (lecithin) คือสารประกอบของไขมันและฟอสฟอรัส เรียกว่า ฟอสโฟลิปิด (phospholipid) มีสารสำคัญคือ ฟอสฟาทิดิล โคลีน(phosphatidyl choline) ฟอสฟาทิดิล เอทาโนลามีน (phosphatidyl ethanolamine) ฟอสฟาทิดิล อิโนซิตอล (phosphatidyl inositol)และกรดฟอสฟาทิดิก (phosphatidic acid) ผลิตภัณฑ์ของเลซิตินมีลักษณะทั้งที่เป็นของเหลว ข้น เหนียว และเป็นของแข็ง ซึ่งขึ้นกับปริมาณสารสำคัญทั้ง 4 ชนิดดังกล่าวข้างต้น
แหล่งของเลซิติน
เลซิตินพบมากทั้งในไข่แดง นม สมอง ตับ ไต ถั่วเปลือกแข็ง ปลา ธัญพืช น้ำมันพืช และสัตว์ต่างๆ ในไข่แดงมีเลซิตินประมาณร้อยละ 6 - 8 สำหรับในพืช พบว่าถั่วเหลืองมีเลซิตินสูงที่สุดประมาณ ร้อยละ 1.1 - 3.2 ในข้าวโพดมี ร้อยละ 1.0 - 2.4 และในเมล็ดฝ้ายพบเพียงร้อยละ 0.7 เดิมการผลิต เลซิตินเพื่อการค้าจะผลิตจากไข่แดง เนื่องจากปริมาณสูง แต่มีปัญหาที่สำคัญคือ มีต้นทุนการผลิตสูง ภายหลังพบว่าสามารถผลิตเลซิตินได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันถั่วเหลือง ทำให้มีต้นทุนการผลิตลดลง และเลซิตินที่ได้จากถั่วเหลืองมีคุณภาพดีกว่าจากไข่แดง เนื่องจากมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ดังนั้นเลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลืองจึงเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 2
เลซิตินที่สกัดแยกออกจากน้ำมันถั่วเหลืองที่อยู่ในรูปของเหลว จะมีส่วนประกอบของไขมันประเภท ไตรกลีเซอไรด์สูงถึงร้อยละ 37 และมีโคลีนอยู่ร้อยละ 15 ส่วนเลซิตินที่อยู่ในรูปผงได้มาจาก เลซิตินในรูปของเหลวจึงมีโคลีนสูงถึงร้อยละ 23 และมีไตรกลีเซอไรด์เหลือเพียงร้อยละ 3 สารเลซิตินสังเคราะห์ที่วางขายในท้องตลาดมี 3 รูปแบบคือ แบบของเหลว แบบแคปซูล และแบบผง
คุณภาพของเลซิตินที่ดีจะต้องมีสารประกอบอื่นๆ เช่น น้ำมัน คาร์โบไฮเดรต ปะปนมาในปริมาณน้อย แต่ต้องมีส่วนประกอบของฟอสโฟลิปิดในปริมาณสูงโดยเฉพาะฟอสฟาทิดิล โคลีน เลซิตินที่สกัดได้จะมีสีแตกต่างกัน ตั้งแต่สีเหลืองจนถึงสีน้ำตาล ถ้าต้องการเลซิตินสีอ่อนอาจใช้สารเคมี เช่น ไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ ช่วยในการฟอกสีให้ได้สีตามต้องการ
ประโยชน์ของเลซิติน
1. เลซิตินกับอุตสาหกรรม
เลซิตินถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม เช่น
ในอุตสาหกรรมการผลิตมาการีนจะมีการเติมเลซิตินลงไป เพื่อให้น้ำสามารถรวมตัวได้กับน้ำมัน และยังช่วยป้องกันการกระเด็นของน้ำมัน เมื่อใช้มาการีนทอดอาหาร
ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มโกโก้ เลซิตินจะช่วยทำให้ส่วนผสมที่ไม่ค่อยละลายน้ำ ให้ละลายในน้ำได้เร็ว
ในอุตสาหกรรมลูกกวาด โดยเฉพาะลูกกวาดที่มีความนุ่ม เช่น คาราเมล จะมีการเติมไขมันเพื่อลดความเหนียวแข็ง ทำให้ลูกกวาดนุ่มขึ้น และตัดเป็นชิ้นไม่ติดกัน
2. เลซิตินกับสุขภาพ
จากคุณสมบัติของไขมัน หรือ คอเลสเตอรอลที่ไม่ละลายรวมกับน้ำ ทำให้คอเลสเตอรอลไม่ละลาย ในเลือดและจะจับตัวเป็นก้อนตกตะกอนอยู่ในเส้นเลือด เลซิตินจะช่วยทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ ให้ไขมัน หรือคอเลสเตอรอลและน้ำรวมตัวกันได้ ทำให้ไขมันหรือคอเลสเตอรอลไม่เกาะติดกับผนังเส้นเลือด และเกิดการอุดตัน นอกจากนั้นกรดไขมันที่พบในเลซิตินส่วนใหญ่จะเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น กรดไลโนลีอิก กรดไขมันดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจได้อีกด้วย นอกจากนั้นเลซิตินยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ เช่น
ช่วยสลายนิ่วที่เกิดจากสารคอเลสเตอรอลในถุงน้ำดีและป้องกันไม่ให้เกิดนิ่ว
ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของไต
ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท
ช่วยบำบัดโรคตับและช่วยป้องกันไม่ให้ตับทำงานผิดปกติ
ลดการเสื่อมของหลอดเลือดแดง 3
3. เลซิตินกับการเป็นอาหารเสริม
สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี อาจเลือกรับประทานเลซิติน จากอาหารที่มีเลซิตินเป็นองค์ประกอบ เช่น ไข่แดง พืชตระกูลถั่ว และธัญพืชที่ไม่ได้ขัดสีเปลือกออกหมด ในกรณีที่มีปัญหาสุขภาพข้างต้น อาจรับประทานเลซิตินเป็นอาหารเสริมควบคู่กับการรับประทานอาหารหลัก เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ประกอบกับการออกกำลังกาย ตลอดจนการมีอารมณ์ที่แจ่มใส จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
แม้ว่าเลซิตินจะมีประโยชน์หลายประการ แต่การรับประทานเลซิตินในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน น้ำลายหลั่งออกมาก เบื่ออาหาร เหงื่อออกมาก ดังนั้นผู้บริโภคควรระมัดระวังในการใช้เลซิตินสังเคราะห์ ควรรับประทานอาหารที่มี เลซิตินตามธรรมชาติก็จะได้ประโยชน์ เช่นเดียวกัน
เลซิตินเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มวัตถุเจือปนอาหาร ซึ่งกำหนดอยู่ในประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 พุทธศักราช 2547 ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพก่อนการจำหน่าย ดังนั้นในการเลือกซื้อเลซิตินสังเคราะห์ ผู้บริโภคควรดูว่าสินค้ามีเครื่องหมาย อยวันหมดอายุ ชนิด และปริมาณสารสำคัญในผลิตภัณฑ์หรือไม่
หากผู้สนใจท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการตรวจสอบคุณภาพเลซิติน สามารถติดต่อโครงการวิทยาศาสตร์ชีวภาพ กรมวิทยาศาสตร์บริการ ได้ในวันเวลาราชการ

ที่มา บทความวิทยุกระจายเสียงรายการสาระยามบ่าย ครั้งที่ 74 กระจายเสียงจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย  ประจำเดือน ธันวาคม 2549 เวลา 16.30-17.00 . เรื่อง "เรื่องน่ารู้ของเลซิติน (Lecithin) เรียบเรียงโดย นางวิภาวรรณ ศรีมุข นักวิทยาศาสตร์ 7 

อย่าลืมไปกดไลค์แฟนเพจของเรานะครับ www.facebook.com/VitaminExpert ครับ

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อาการ 7 ประการ สัญญาณดีๆที่ได้รับหลังจากทานเอจบลอคเกอร์


อาการ 7 ประการ สัญญาณดีๆที่ได้รับหลังจากทานเอจบลอค


ส่วนใครทานแล้วง่วงมาก ขอให้ลองนอนพักผ่อน เข้านอนสี่ทุ่ม ตื่นแปดโมงเช้า ให้ได้ซักหนึ่งอาทิตย์นะครับ แล้วรับรองว่าโรคทานเอจบลอคแล้วง่วงจัดจะหายแน่ๆครับ แต่ถ้าอดนอนอีก พักผ่อนไม่พออีก จะเป็นขึ้นมาอีก 


เพราะเอจบลอคอีกนัยคือเหมือนกับเป็น indicator ที่คอยวัดร่างกายเราว่าตอนนี้มีdefectตรงไหน แล้วจะฟ้องเป็นอาการทางกายออกมา 



เช่น ..............


‎1. ถ้าทานเอจบลอคแล้วท้องผูก คือระบบย่อย และ ขับถ่ายคุณไม่ดี สองอาทิตย์ก็จะเริ่มเข้าที่ และเป็นปกติ 


2.ถ้าคุณเป็นสิวหลังจากทานเอจบลอค แสดงว่าโดยปกติคุณไม่ค่อยออกกำลังกายถึงระดับ cardio เพราะการขับถ่ายของเสียทางผิวหนังคุณมีปัญหา อันนี้ เดือนนึงก็หายครับ  


3.ถ้าคุณทานเอจบลอคแล้ว นอนไม่หลับ แสดงว่าโดยปกติคุณเป็นคนที่อ้วนยาก ร่างกาย alert อยู่ตลอด ระบบไหลเวียนเลือดกลุ่มนี้จะไม่ค่อยดี มักจะเป็นคนตัวร้อนมือเย็นเท้าเย็น ขี้หนาว ทานเอจบลอคช่วงแรกจะรู้สึกหลับยากแต่ประมาณ 1-2 เดือน จะกลายเป็นคนหลับลึกขึ้นมากกก มากกว่าที่เคยเป็น และจะรู้สึกว่านอนเต็มอิ่มขึ้นมาก หลายคนจึงพบว่าทานเอจบลอคแล้วแล้วหน้าเด็กลงมาก นั่นเพราะส่วนหนึ่งมาจากการที่ร่างกายหลั่งเมลาโทนินได้(ตัวสำคัญที่ทำให้มนุษย์ไม่แก่) เพราะร่างกายได้หลับลึก และการหลั่งสารสำคัญนี้ร่างกายจะทำได้ต่อเมื่อร่างกายหลับลึกได้เท่านั้น 


4.ถ้าคุณทานเอจบลอคแล้วง่วงมากกกกกกก
แสดงว่าช่วงนั้นคุณหักโหมร่างกายเกินไป พักผ่อนไม่พอ หรือ ในบางคน นอนน้อยจนติดเป็นนิสัย ทั้งๆที่ร่างกายคุณต้องการการนอนหลับมากกว่านั้น เพราะหลายๆคนติดนิสัยกับการฝืนร่างกายมาตลอด กลุ่มนั้นทานเอจบลอคได้ซักพักจะง่วงปั๊ปแบบแทบฝืนไม่ไหว อันนี้ก็จงไปนอนซะ อย่าฝืนเลยจ่ะ บางคนง่วงตอนเย็น คืนนั้นก็รีบเข้านอน นอนให้เต็มอิ่ม ทำตามที่ร่างกายบอก ซักระยะ พอร่างกายหายเพลียจริงๆ ทานเอจบลอคแล้วจะปกติมากก ไม่มีอาการง่วงเหงาหาวนอนเลย


5.ถ้าคุณทานเอจบลอคแล้วเบื่ออาหาร
อันนี้จะเป็นกลุ่มเดียวกับพวก alert ในข้อสามที่กล่าวไปข้างต้น คือเนื่องจาก โดยตัวเอจบลอคเกอร์จริงๆแล้วคือ energy boosting กลุ่มพวกalert อยู่แล้ว ทานแรกๆ จะยิ่งไม่กินไม่นอน แล้วจะผอมลงอีกต่างหาก ดังนั้นเมื่อร่างกายปรับสมดุล ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น อาการเบื่ออาหาร หรือแม้แต่มือเย็น เท้าเย็น ก็จะดีขึ้น


6. ถ้าคุณทานเอจบลอคแล้วมีผื่นแดง คัน ขึ้นทั่วตัว กินระยะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
แสดงว่า คุณมีอาการ niacin flush ก็จงดีใจว่า หลอดเลือดคุณกำลังได้รับการดีท็อกซ และ อาจเป็นสมมติฐานว่าหลอดเลือดใดอันหนึ่งของคุณกำลังตีบตัน หรือ ระดับโคเลสเตอรอลคุณอาจจะอยู่ในเกณฑ์ไม่น่าไว้ใจ เพราะทันทีที่ร่างกายได้รับ vitamin B3เข้าไป หลอดเลือด ทั่วร่างกายจะขยาย และระบบเลือดจะสูบฉีดดีขึ้นมาก ดังนั้นใครที่มีอาการนี้จงดีใจได้เลยว่า เป็นปฏิกิริยาของการดีท็อกซเส้นเลือดที่กำลังได้ผลมากๆ จะเกิดซักระยะ ไม่เกินสองอาทิตย์ก็จะหายไปในที่สุด 


7. ถ้าคุณทานเอจบลอคแล้ว มีอาการเลือดออกกระปิดกระปรอย
นั่นแสดงว่าคุณเป็นคนที่ระบบฮอร์โมนและระบบสืบพันธ์ไม่ปกติ อาจเนื่องมากจากความผิดปกติโดยธรรมชาติ ที่เป็นคนที่รอบเดือนไม่ค่อยตรงเวลาอยู่แล้ว มีอาการปวดท้องช่วงมีรอบเดือน มีระดูขาว หรือการรับประทานยาปฏิชีวนะบางอย่าง หรือการรับประทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อฮอร์โมน เช่น วิตามินที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นฮอร์โมนบางตัว เช่น ยาเพิ่มขนาดหน้าอก รกแกะ และ อื่นๆ หรือ ยาคุมทุกประเภท อาการมีรอบเดือนผิดปกติจากระบบฮอร์โมนและระบบสืบพันธ์ไม่ปกตินี้จะแสดงออกมาทันทีเมื่อทานเอจบลอค
ขอก้อบข้อความบางส่วนข้างบนมาอธิบายตรงส่วนนี้เพิ่ม

“จริงๆก็คล้ายๆกับการเล่นโยคะค่ะ เพราะโยคะจะมีหลายท่าที่ช่วยนวดมดลูก ทำให้เลือดไหลเวียนดี ไปกระตุ้นต่อมที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธ์ที่ช่วยทำให้ฮอร์โมนปกติ บางคนที่ร่างกายเซ้นมากๆและระบบฮอร์โมนไม่ปกติ เล่นโยคะหนักๆแรกๆประจำเดือนจะมารวนมาก และมีเลือดออกกระปิดกะปอรอยได้ บางคนเป็นอยู่สามเดือนได้ ตัวพี่เองตอนเล่นโยคะหนักๆเล่นทุกวันเช้าเย็นเนี่ย ประจำเดือนมามั่วมาก จนกระทั่งเดือนที่ห้าได้ กลายเป็นคนที่ประจำเดือนมาตรงวันเป๊ะ ระดับแบบเลทไม่เกินสองวัน และจะแทบไม่มีอาการปวดท้องช่วงมีรอบเดือนเลย แล้วก็เป็นแบบนั้นมาตลอดเลย จนกระทั่งเลิกเล่นก็กลับมาไม่ค่อยตรงอีกบ้างแต่ไม่แย่เหมือนเดิม แล้วก็มีปวดท้องช่วงวันแรกบ้าง มาหายอีกทีก็ตอนทานเอจบลอคเนี่ยแหละค่ะ ไม่รู้จักคำว่าปวดท้องรอบเดือนอีกเลย”


‎8. และสำหรับใครที่ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ก็เพราะเหตุผลสองประการ คือ ร่างกายคุณค่อนข้างปกติมากๆแทบทุกด้าน หรือ ร่างกายคุณทานยาหรือรับสารเคมีมามากๆจนร่างกายตอบสนองช้า ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หรือ แบบข้อ 1-7 สิ่งที่คุณจะได้รับหลังจากทานเอจบลอค คือ ผลลัพธ์ด้านความงาม และ ผิวพรรณ (ลิสนี้ มาจากผลลัพทธ์ที่ลูกค้าบอกกันมา)- ผิวพรรณ ดูสดใส เปล่งปลั่ง ดูผิวฟูเต็มขึ้น หน้าเด็กขึ้น- เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง อย่างเห็นได้ชัด- ผิวกระชับ แน่นขึ้น- ริ้วรอย เลือนลง (รอยหางตา ร่องแก้ม รอยหย่อนคล้อยตามผิวหน้า ลำคอ ใต้คาง)- แผลเป็น หลุมลึก รอยสิว รอยด่างดำ ตลอดจน คีรอยด์จะจางลง (แต่จะใช้เวลามากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดและความรุนแรงของแผลเป็น)- ฝ้า กระ ทั้งที่เกิดจากฮอร์โมน และ เกิดจาก โดนแดด ก็จะจางลง แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-4 weeks จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงแรก- ใต้ตากระชับ ถุงใต้ตา ลดลงอย่างชัดเจน “มาก” จนถึงขั้นเรียบสนิทในบางราย และ แพนด้าหรือรอยคล้ำรอบดวงตาลดลงอย่างชัดเจนเช่นกัน- น้ำมันบนผิวหนังมีความสมดุลขึ้น ผิวมันจะมันลดลง และในคนผิวแห้ง ผิวจะชุ่มชื้นมากขึ้น- ลดรอยด้าน ผิวหนังหยาบแข็ง เช่นตามหัวเข่า ข้อศอก- แก้ปัญหาผมร่วง หนังศรีษะมันเกินไป และ ช่วยให้ผมขึ้นใหม่ และ มีรากผมที่แข็งแรงขึ้น- รูปร่างจะดูกระชับขึ้น รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องและต้นขา ไขมันใต้คาง 


ผลลัพธ์ด้านสุขภาพ- ลดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ง่วงเหงาหาวนอน- ทำงานได้นานขึ้น มีสมาธิมากขึ้น หรือเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงก็จะทนได้นานขึ้น- ลดน้ำตาลในเลือด- ลดไขมันในเลือด- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน โรคข้อเสื่อม กระดูกเสื่อม- ลดไขมันเลว LDL และ เพิ่มไขมันดี HDL ในร่างกาย- ลดอาการเป็นตะคริว (คนที่มักเป็นตะคริวตอนนอน กินแล้วหายทุกคน)- ลดอาการปวดข้อ- ช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น ทานจุกจิกน้อยลง และ น้ำหนักตัวจะเพิ่มยากขึ้น- ช่วยลดอาการปวดท้องช่วงมีประจำเดือน- ช่วยลดอาการภูมิแพ้ คัดจมูก- ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากความเจ็บป่วยง่าย เช่น หากปกติเป็นหวัดนานเป็นอาทิตย์ ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันดีขึ้น เพียงแค่สองสามวันก็จะหาย หรือแม้แต่อาหารเป็นพิษ ก็จะฟื้นไข้เร็วขึ้น- ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เช่นเมื่อคุณมีอาการเริ่มๆคล้ายจะเป็นหวัด ให้ทาน เอจบลอค คู่กับ วิตามินซี ของ lypo-spheric แล้วนอนพักให้เพียงพอ อย่านอนดึก วันรุ่งขึ้นก็จะทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้และอาการที่เหมือนจะเป็นหวัด จะหายไปเป็นปลิดทิ้ง (ลูกค้าบอกมาหลายคนมากๆ)


แต่ละคนได้รับผลลัพท์ช้าเร็วต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพของแต่ละคน บางคนจะได้รับผลข้างเคียงก่อน พอร่างกายปรับแล้วก็จะดีขึ้นจนdefectของร่างกายนั้นๆหายไป บางคนก็อาจจะเห็นผลชัดขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่แรก เราจึงบอกว่า age blocker เป็นสุดยอดอาหารเสริม ที่ไม่ขาด ไม่เกิน และ จำเป็น ที่สุด!


ส่วนใครทานแล้วง่วงมาก ขอให้ลองนอนพักผ่อน เข้านอนสี่ทุ่ม ตื่นแปดโมงเช้า ให้ได้ซักหนึ่งอาทิตย์นะคะ แล้วรับรองว่าโรคทานเอจบลอคแล้วง่วงจัดจะหายแน่ๆค่ะ แต่ถ้าอดนอนอีก พักผ่อนไม่พออีก จะเป็นขึ้นมาอีก 


กลูตาไธโอน แบบไหนที่ได้ผลจริง


กลูตาไธโอน แบบไหนที่ได้ผลจริง

 การทานกลูตาไธโอนแบบเม็ดนั้น โอกาสจะเห็นผลมีน้อยมากครับเพราะสารกลูตาไธโอนที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบเฉพาะมักจะไม่สามารถผ่านน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของเราไปได้ เนื่องจากมีหลายๆท่านทีเดียวที่ถามถึงผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาว ทางเพจจึงอยากแนะนำเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลจริงที่สำคัญคือต้องมีความปลอดภัยโดยต้องได้รับการรับรองจากFDAของสหรัฐอเมริกา วันนี้ทางเพจขอแนะนำผลิตภัณฑ์กลุ่มผิวขาวของเราดังนี้ครับ
1.Lypo-Spheric GSH  
ได้ผลเท่าการฉีด เทคโนโลยีระดับโลก นวัตกรรมใหม่ที่ผ่านการจดสิทธิบัตรแล้ว นำเข้าจากUSA ปลอดภัย100%

ตัวนี้เป็นเพียงแค่ตัวเดียว ณ ตอนนี้ที่มีการทำอยู่ในรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า Lyposome จริงๆ จึงทำให้มีการดูดซึม 100% อีกทั้งกลูต้าไธโอนของ Lypo-SphericTM GSH นี้ยังอยู่ในรูป Reduce Form (Active Form) ซึ่งเป็นรูปแบบของกลูต้าไธโอนที่พร้อมจะออกฤทธิ์ทันที  กลูต้าไธโอน สารต้านอนุมูลอิสระตัวหลักในร่างกาย และช่วยเพิ่มความสามารถของสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆด้วย เช่น Vitamin C และ Vitamin E  อีกทั้งกลูต้าไธโอนยังมีฤทธิ์ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายและช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็ว แต่กลัวการฉีด ขอแนะนำกลูต้าไธโอนรูปแบบ Lyposomal Nano-Spheres® นาโนเทคโลยี เทคโนโลยีล่าสุดจากอเมริกา
     แบ่งจำหน่าย 10 ซอง 1,190 บาท /15ซอง 1,590 บาท / 20 ซอง 1,920 บาท /1 กล่อง (30 ซอง) กล่องละ 2,900 บาท

2.PROFIMIN VICE NICE 40 เม็ด
 
เลขที่ 10-1-00449-1-0028
เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycineและ Glutamic acid  เป็นสารแอนซิแดนท์ตัวสำคัญที่ร่างกายสร้างขึ้น ช่วยปกป้องร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยกำจัดสารพิษที่ตับ หากร่างกายไม่มีเซลล์จะตายอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะนำไปสู่ความชรา

กลไกที่ทำให้ผิวขาวของ เกิดจากกระบวนการยับยั้งการสร้างสร้างเม็ดสีเมลานิน โดยกลูต้าไธโอนจะไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการสร้างเม็ดสีเมลานิน และกระตุ้นให้สร้างฟีโอเมลานิน (เม็ดสีอ่อนขาวชมพู) มากกว่ายูเมลานิน (เม็ดสีเข้มคล้ำ)

นอกจากแล้ว ยังมีสารต่างๆมีมากมายที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส และช่วยเสริมผล เช่น สารสกัดจากเปลือกสน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ชาเขียวสกัด สารสกัดจากมะเขือเทศ โคเอ็นไซม์คิวเทน วิตามินซี และวิตามินอี 

สารประกอบสำคัญ

 โปรไวท์ 600 มก. (แอลซิสเตอีน 168 มก., แอลไกลซีน 168 มก. แอลกลูตามีน 164 มก.,กรดอัลฟาไลโปอิก 100 มก.)  ไบโอฟลาโวนอยด์ 50 มก. สารสกัดจากเปลือกสน 45 มก. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 15 มก. ชาเขียว 40 มก.* สารสกัดจากมะเขือเทศ 60 มก.* โคเอ็นไซม์คิวเทน 10 มก.* ซิงค์ 3 มก.* วิตามินซี 30 มก.* วิตามินอี 5 มก.

กล่องนึงมี40เม็ด ราคา750บาท(จากราคาปกติ 990บาท)

3.AjiPure N-Acetyl-L-Cysteine, Pharmaceutical Grade

คุณภาพและประสิทธิภาพสูงกว่า NAC ธรรมดา เนื่องจากเป็นรูปแบบ Pharma Grade** คือ เป็นรูปแบบที่มีความบริสุทธิ์ของสารมากกว่าหรือเกือบ 100% ซึ่งปกติอาหารเสริมทั่วไปจะเป็น Food Grade คือจะมีความบริสุทธิ์ของสารเพียงแค่ 50% โดยประมาณ

สำหรับคนที่ทานกลูตาไธโอนแล้วไม่ได้ผล หรือทานเพื่อเพิ่มฤทธิ์กลูตาไธโอน
 ปกติกลูต้าไธโอนที่ทานเค้าไปนั้นจะไม่ค่อยคงตัวในกระเพาะอาหาร เนื่องจากจะถูกทำลายด้วยกรดหรือเอมไซม์ในกระเพาะอาหาร จึงทำให้ปริมาณที่ดูดซึมเข้าไปใช้งานเหลือเพียงแค่เล็กน้อย (ประมาณ 10%) ทำให้การทานกลูต้าไธโอนมักไม่ค่อยเห็นผลในบางคน
N-Acetyl-L-Cysteine เป็นรูปแบบที่เป็นตัวออกฤทธิ์  Cysteine เป็นส่วนประกอบหนึ่งของเป็นกลูต้าไธโอน (กลูต้าไธโอน ประกอบด้วยกรดอะมิโน3 ตัว คือ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid) 
Cysteine จะเป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทเด่นในการมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และมีฤทธิ์มากที่สุดในกรดอะมิโน 3 ตัว ของกลูต้าไธโอน และสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างกลูต้าไธโอนในร่างกาย โดยที่ Cyteine ปกติจะไม่ค่อยคงตัวในกระเพาะอาหาร เนื่องจากจะถูกทำลายด้วยกรดหรือเอมไซม์เช่นเดียวกัน จึงได้มีการทำในรูปแบบที่เรียกว่า N-Acetyl Cysteine หรือที่เรียกว่า NAC ดังนั้นการทาน NAC เพื่อเข้าไปกระตุ้นการสร้างกลูต้าไธโอนจากภายในร่างกายจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ทานกลูต้าไธโอนแล้วไม่ค่อยเห็นผลหรือเห็นผลได้น้อย  มีหลายๆบทความในต่างประเทศบอกว่าการทาน NAC จะสามารถเพิ่มระดับของกลูต้าไธโอนในร่างกายได้มากกว่าการทานกลูต้าไธโอนเข้าไป เนื่องจากจำนวนมากกว่าครึ่งของกลูต้าไธโอนแบบเม็ดตามท้องตลาดที่ทานเข้าไปจะถูกทำลายในทางเดินอาหาร (มีการสูญเสียไปถึง 85% แต่ว่าการทาน NAC เข้าไปจะมีการสูญเสียไปเพียงแค่ 15% เท่านั้น)

     Swanson AjiPure N-Acetyl-L-Cysteine 600 mg (USA) 60 แคปซูล ราคา750บาท   


4.Ivory Caps 1500 mg Glutathione plus ALA and Milk Thistle 60 capsules 
 
 สินค้าคุณภาพพรีเมี่ยมนำเข้าจาก USA 
กลูต้าไธโอนชนิดเข้มข้น เห็นผลทันใจ 
ขาวสว่างใสรวดเร็ว 
-ช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำ 
-ช่วยลดและป้องกันริ้วรอย 
-ป็นกลูต้าไธโอนแบบเม็ดที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ 
-ผ่าน อย. จาก USA 
-มีสถานที่ผลิตจริงสามารถตรวจสอบได้ 
ไอโวรี่แคปส์ กลูตาไธโอน1,500 มก.     ราคา 1,200 บาท(จากราคาปกติ 1,390บาท)


และเพื่อให้ผลดีที่สุดควรทานคู่กับวิตามินซีและกรดอัลฟาไลโปอิกที่ถือเป็น Universal Antioxidant 



กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายวิตามิน โดยทำหน้าที่เป็นCoenzyme ในขบวนการเผาผลาญน้ำตาล และสารอาหารอื่นๆ ให้เป็นพลังงาน โดยปกติร่างกายเราสามารถสังเคราะห์กรดอัลฟาไลโปอิคได้เองอยู่แล้วในปริมาณคงที่ ซึ่งร่างกายเราผลิตได้ในจำนวนที่เพียงพอต่อการช่วยไมโตคอนเดรียเปลี่ยนกลูโคสไปเป็นพลังงานเท่านั้น ไม่ได้ผลิตให้เหลือพอที่จะใช้ต่อต้านความเสื่อมชราของเซลล์ หรือเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย 

นอกจากนี้กรดอัลฟาไลโปอิก ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “Universal Antioxidant”เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรง และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ เช่น วิตามินซี, อี, Glutathione หรือ Co-enzyme Q10 ให้กลับมาอยู่ในรูปที่ใช้งานได้อีกหลังจากที่ใช้ในการกำจัดอนุมูลอิสระไปแล้ว ด้วยคุณสมบัติของกรดอัลฟาไลโปอิก คือ สามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน สามารถซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าไปในชั้นลึกสุดของเซลล์ระดับ DNAจึงสามารถแทรกซึมไปชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ทั่วเซลล์ในร่างกาย ในขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น CoQ10 ที่ละลายได้เพียงในส่วนน้ำมันในร่างกาย ทำให้กรดอัลฟาไลโปอิคมีคุณสมบัติเหนือกว่า 4-5 เท่า และมีฤทธิ์แรงกว่า วิตามินอี และวิตามินซี 50 เท่า 

กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นเพียงสารต้านอนุมูลอิสระตัวเดียวที่สามารถกระตุ้นให้มีการสร้างกลูต้าไธโอนในเซลล์ จึงทำให้ระดับของกลูต้าไธโอนในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ เพราะฉะนั้น กรดอัลฟาไลโปอิก จะเป็นตัวที่ช่วยเสริมฤทธิ์กลูต้าไธโอนได้ดีที่สุดในบรรดาลสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ

******ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกชนิด "ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค"******
สั่งซื้อได้ที่ aminosogood@gmail.com
หรือโทร 0860122550 


สารสกัดจากเม็ดองุ่น ดีอย่างไร


สารสกัดจากเม็ดองุ่นเข้มข้น




ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ผิวขาวใส ไร้ฝ้ากระ ช่วยเสริมฤทธิ์กลูต้าไธโอน
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (grape seed extract) เป็นสารสกัดที่อุดมไปด้วยพฤกษเคมีจากธรรมชาติที่เรียกว่า “โอลิโกเมอริก โปรแอนโทไซยานิดีน หรือโอพีซี (oligomeric proanthocyanidins: OPC)” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีฤทธิ์แรงกว่าวิตามินซี 20 เท่าและแรงกว่าวิตามินอี 50 เท่า ช่วยต่อต้านการทำลายเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวหนังที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเป็นโครงสร้างหลักในผิว ทำหน้าที่ค้ำจุนและให้ความยืดหยุ่น หากถูกทำลายไปก็จะเกิดรอยเหี่ยวย่นที่มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนเซลล์ผิวหนังในชั้นหนังกำพร้า (ชั้นนอกสุด) หากถูกทำลายจะปรากฏรอยแห้งกร้าน สารสกัดจากเมล็ดองุ่นจึงช่วยรักษาความกระชับ เต่งตึงของผิว ขณะเดียวกันก็ป้องกันริ้วรอยหยาบกร้านได้ นอกจากนี้ในผู้ที่มีปัญหาฝ้า หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ สารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะสามารถช่วยลดความเข้มของสีผิวบริเวณที่ดำคล้ำลง จึงทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส จึงทำให้เมล็ดองุ่นสกัดถูกนำมาประยุกต์ใช้ในวงการเครื่องสำอางค์เเละอาหารเสริม

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นไม่เพียงแค่มีประสิทธิในการดูแลผิวพรรณของคุณเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่จะช่วยดูแลสุขภาพร่างกายของคุณด้วย เช่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือดจึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ บรรเทาอาการมือและเท้าชา รักษาเส้นเลือดขอด ชะลอความเสื่อมของโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก

สามารถทำงานร่วมกับวิตามินซีในการทำให้คอลลาเจนทั่วร่างกายแข็งแรงขึ้น และยังช่วยป้องกันการสูญเสียวิตามินซีและอี

ประโยชน์ :
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอด
- เสริมสร้างการทำงานของคอลลาเจน
- ต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมทำลายของอวัยวะต่างๆ และช่วยชะลอการแก่ก่อนก่อนวัย
- ยับยั้งการเกิดเม็ดสี เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นฝ้า กระ
- และเสริมการทำงานของกลูต้าไธโอน



วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โทษของบุหรี่



  • บุหรี่ 1 มวน มีสารอนุมูลอิสระมากกว่า1000ล้านหน่วย
  • บุหรี่ 1 มวน ทำให้อายุสั้นลง 8 นาที
  • สูบบุหรี่ทุกวัน ทำให้อายุผิวแก่ขึ้นอีก 17 ปี
  • อยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ ทำให้อายุผิวแก่ขึ้นอีก 8 ปี
  • บุหรี่มีสารประกอบต่างๆ อยู่ประมาณ 4000 ชนิด มีสารก่อมะเร็งไม่ต่ำกว่า 42 ชนิด ซึ่งสารบางชนิดเป็นอันตรายที่สำคัญ คือ
 นิโคติน
 กดประสาทส่วนกลาง มีผลต่อต่อมหมวกไต ทำให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจ เต้นเร็วกว่าปกติ และไม่เป็นจังหวะ หลอดเลือดที่แขนและขาหดตัว เพิ่มไขมันในเส้นเลือด (ก้นกรองไม่ได้ทำให้ ปริมาณนิโคตินลดลงได้)
 ทาร์ หรือน้ำมันดิน
 สารก่อมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด, กล่องเสียง, หลอดลม. หลอดอาหาร, ไต, กระเพาะปัสสาวะ และอื่นๆ ร้อยละ 50 ของน้ำมันดิน จะไปจับที่ปอด เกิดระคายเคือง ทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะ
 คาร์บอนมอนอกไซด์
 ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถจับออกซิเจนได้เท่ากับเวลาปกติ เกิดการขาดออกซิเจน ทำให้ มึนงง ตัดสินใจช้า เหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ
 ไฮโดรเจนไซยาไนด์ 
 ก๊าซพิษ ทำลายเยื่อบุผิวหลอดลมส่วนต้น ทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะเป็นประจำโดยเฉพาะตอน เช้า
 ไนโตรเจนไดออกไซด์ 
 ก๊าซพิษทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลาย และถุงลม ทำให้ผนังถุงลมบางโป่งพอง ถุงลมเล็กๆ หลายอันแตก รวมกันเป็นถุงลมใหญ่ ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง
 แอมโมเนีย
 มีฤทธิ์ระคายเคืองเนื้อเยื่อ ทำให้แสบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ ไอมีเสมหะมาก
 สารกัมมันตรังสี ์ 
 ควันบุหรี่มีสารโพโลเนียม 210 ที่มีรังสีอัลฟาอยู่ เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด
ควันบุหรี่มีผลต่อบุคคลข้างเคียง
 เด็ก
 ทำให้เด็กในครอบครัวป่วยด้วยโรคหลอดลมอักเสบ ปอดบวม หอบหืด หูชั้นนอกอักเสบเพิ่มมากขึ้น
 หญิงมีครรภ์ 
 น้ำหนักตัวขณะตั้งครรภ์เพิ่มน้อยกว่าปกติและมีโอกาสแท้ง คลอดก่อนกำหนด ตกเลือดระหว่างคลอด และหลังคลอดมากเป็น 2 เท่าของหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนั้นยังทำให้เกิดภาวะรกเกาะต่ำ และรกลอกตัว ก่อนกำหนดมากขึ้น ลูกที่คลอดจากแม่ที่สูบบุหรี่ อาจจะมีน้ำหนักและความยาวน้อยกว่าปกติ พัฒนาการทางด้าน สมองช้ากว่าปกติ อาจมีความผิดปกติทางระบบประสาท, ระบบความจำ
 คู่สมรสของผู้สูบบุหรี่ 
 มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคู่สมรสที่ไม่สูบบุหรี่ 2 เท่า มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ 3 เท่า และเสียชีวิตเร็วกว่าปกติถึง 4 ปีคนทั่วไป ควันบุหรี่จะทำให้เกิดอาการเคืองตา ปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหล โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบ ก็จะทำให้มีอาการของโรคเพิ่มมากขึ้น

ประโยชน์ของโปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง

โปรตีนสกัดที่ได้จากถั่วเหลืองนั้นมีสารกลุ่มไอโซฟลาโวนซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant )มีผลในการป้องกันความเสี่ยงของร่างกาย ชะลอความแก่ และมีผลในการป้องกันความเสี่ยงของร่างกายชะลอความแก่ และมีการป้องกันการเกิดมะเร็งหรือเนื้องอกต่างๆ ลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นช้ำของมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ นอกจากนี้ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งได้